กทม. หนุนเสริมทักษะสมองส่วนหน้า (EF) ในเด็กเล็ก ตามนโยบายผู้ว่าฯ “คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น”
กทม. หนุนเสริมทักษะสมองส่วนหน้า (EF) ในเด็กเล็ก
ตามนโยบายผู้ว่าฯ “คิดเป็น ทำเป็น เรียนรู้เป็น”
เปิดตัวโครงการใหม่ “ภาคี ดาว-อีเอฟ พัฒนาเด็กกทม.”
ทักษะสมอง EF (Executive Functions) คือความสามารถในการจัดการชีวิต ที่จะช่วยให้เด็กรู้จักควบคุมอารมณ์ ยับยั้งชั่งใจ มีสมาธิจดจ่อ รู้จักปรับตัว กำกับตนเองได้ คิดวิเคราะห์ และตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม วิชาการด้านประสาทวิทยาชี้ว่า เมื่อฝังคุณสมบัติเหล่านี้ตั้งแต่ปฐมวัย จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทั้งปวง รวมทั้งป้องกันสิ่งเสพติดไปได้ตลอดชีวิต
กลุ่มบริษัทดาวประเทศไทย ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมทักษะสมอง EF ในจังหวัดระยองมา ตั้งแต่ปี 2561 อย่างต่อเนื่อง จนเห็นผลสัมฤทธิ์ว่า เด็กในโครงการฯ มีความสามารถในการจัดการตนเองและมีพฤติกรรมดีขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ จึงริเริ่มอาสานำมาส่งเสริมสนับสนุนเด็ก ใน กทม.
สำหรับโครงการนี้ มีแผนการดำเนินงาน 5 ปีตั้งแต่ 2567 – 2571 โดยในระยะที่ 1 ซึ่งเสร็จสิ้นแล้ว ได้จัดการอบรมและติดตามนิเทศให้ความรู้แก่ครูปฐมวัยไปแล้ว 221 คนจาก 10 โรงเรียน 11 ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน ในเขตหนองแขม และพัฒนาโรงเรียนต้นแบบส่งเสริม EF ปฐมวัยแล้วจำนวน 2 ร.ร. คือโรงเรียนวัดบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กับ โรงเรียนวิชากร เขตดินแดง รวมจำนวนเด็กปฐมวัยที่ได้รับการพัฒนาจากครูประมาณ 3,000 คน
ในโครงการระยะที่ 2 นี้ จะรับสมัครครูจากศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนจำนวน 200 คนเข้ารับการอบรมและนิเทศ พร้อมไปกับการพัฒนาโรงเรียนต้นแบบเพิ่มจาก 2 เป็น 7 โรงเรียน ครอบคลุมพื้นที่กทม. 6 โซนเขต ประกอบด้วยเขตดินแดง บางเขน ปทุมวัน ลาดกระบัง บางพลัด และราษฎร์บูรณะ ซึ่งรวมครูและพี่เลี้ยงเด็กทั้งสิ้นในระยะที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนาประมาณ 320 คน ซึ่งจะครอบคลุมการพัฒนาเด็กปฐมวัยประมาณ 5,500 คน
ทั้งนี้ คาดว่าด้วยความร่วมมือของ กทม.กับภาคี ภายใน 5 ปีจะสามารถขยายผลการให้ความรู้เรื่องทักษะสมอง EF ครอบคลุม ศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนสังกัดสำนักพัฒนาสังคม จำนวน 271 ศูนย์, สังกัด สำนักอนามัย จำนวน 12 ศูนย์ และโรงเรียนในสังกัด กทม.ครบทั้ง 437 แห่ง
โดยภาคีฯ จะร่วมกันจัดให้มีการทำความเข้าใจกับผู้บริหารโรงเรียน การฝึกอบรมครู และครูพี่เลี้ยง ให้มีความเข้าใจในการพัฒนา EF สามารถนำไปใช้สร้างการเรียนรู้ และสอดแทรกในการเรียนการสอน กับกิจวัตรประจำวันของเด็ก เพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้และการกับตนเองให้กับเด็กๆ สามารถคิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ เรียนรู้ แก้ปัญหา และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการดูแลและพัฒนาเด็กด้วย
“วิสัยทัศน์ของการพัฒนากทม. ต้องการให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี การศึกษาเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งการพัฒนาเด็กนั้น ชุมชนกับสังคมมีส่วนมาก เขาบอกว่า “การเลี้ยงเด็กหนึ่งคน ต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านช่วยกันดูแล” อย่าคิดว่าเราเอาเด็กไปทิ้งที่โรงเรียนแล้วเขาจะพัฒนาได้เต็มที่ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพของเด็กๆ และจริงๆ แล้วเด็กส่วนใหญ่อยู่กับครอบครัวมากกว่าอยู่กับครูด้วยซ้ำ ดังนั้นมาร่วมมือกันนะครับ ไม่ได้ยากเลย แล้วเราจะก้าวไปพร้อมกันเพื่อให้เด็กของเรามีคุณภาพมากขึ้น 4 เกลียวเชือกที่จะผสานกันมั่นคงคือ กทม. ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาชนหรือครอบครัว ทุกคนมีส่วนร่วมพัฒนาเด็กปฐมวัยได้ในบริบทของตนเอง” นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว
ด้าน นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านวัสดุศาสตร์ (Materials Science)ระดับโลก เปิดเผยว่า “Dow ตระหนักว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นพลังที่สำคัญที่สุด ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ Dow จึงให้การส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยในหลายกลุ่มวัยมาอย่างต่อเนื่อง จากผลสำเร็จของการพัฒนาเด็กเล็กตามแนวทาง EF ที่จังหวัดระยอง ทำให้เราเชื่อมั่นที่จะสานต่อการดำเนินการในพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โดยนำร่องในพื้นที่หนองแขมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 ซึ่งได้มีการจัดอบรมและนิเทศน์ติดตามให้กับสถานศึกษากว่า 20 แห่ง พัฒนาโรงเรียนนวัตกรรมระดับปฐมวัย 2 แห่ง นอกจากนี้ ยังได้ร่วมสนับสนุนการจัดทำคู่มือพัฒนาทักษะสมอง EF เด็กปฐมวัยในโรงเรียนพื้นที่นวัตกรรมกรุงเทพมหานครให้ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งจะเป็นการขยายองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาเด็กๆ ให้แพร่หลายต่อไป”
นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันรักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป กล่าวว่า ในฐานะผู้ขับเคลื่อนองค์ความรู้ EF มาตั้งแต่ปี 2557 สถาบันรักลูกฯ ยังเดินหน้าพัฒนาขยายชุดความรู้ EF ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น มุ่งหวังให้ความรู้นี้เป็นความรู้สามัญประจำบ้าน ที่ผู้ใหญ่ทุกคนเข้าใจ และนำไปใช้พัฒนาลูกหลานกับลูกศิษย์ของตนเองได้ เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตอย่างมีหลักคิด เท่าทัน มีภูมิคุ้มกันที่ดี และเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งเทคโนโลยีไม่ว่าบวกและลบ ภาวะโลกร้อน หรือภัยพิบัติต่างๆ ฯลฯได้อย่างเข้มแข็ง สามารถนำพาประเทศชาติในอนาคตให้เป็นสังคมที่มั่นคงผาสุกต่อไป
ผู้บริหารและคุณครูที่สนใจ สามารถดาวน์โหลด “คู่มือพัฒนาทักษะสมอง FE เด็กปฐมวัยในโรงเรียนนวัตกรรม กรุงเทพมหานคร” ได้ฟรีที่ https://www.dowfamilythailand.com/th/news-detail.php?NewsID=423 ซึ่งในคู่มือดังกล่าวมีข้อมูล กระบวนการ ประสบการณ์ และการถอดบทเรียนของการนำเทคนิคการเรียนการสอนตามแนวทาง EF มาใช้จริงในกรุงเทพมหานคร
ไม่มีความคิดเห็น